Wednesday, 1 May 2024

ประโยชน์จากปลาแซลมอน

05 Feb 2023
75

15 ประโยชน์จากปลาแซลมอนที่คุณควรรู้

เมื่อสุขภาพร่างกายของคุณเริ่มมีปัญหา มักจะมีสัญญาณเตือนบางอย่างที่แจ้งให้คุณรู้ เช่น อาการปวดศรีษะ, น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น, ผมร่วง, ปัญหาผิวต่างๆ เป็นต้น เหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรละเลย เพราะอาการเหล่านี้อาจทำให้ก่อเกิดโรคต่างๆตามมามากมายได้ ในบทความนี้ เราจะขอแนะนำวิธีการดูแลตัวเองด้วยการรับประทานปลาแซลมอน

15 ประโยชน์จากปลาแซลมอนที่คุณควรรู้

ประโยชน์ของการรับประทานปลาแซลมอน

เนื่องจากปลาแซลมอนนี้เป็นหนึ่งในอาหารสุขภาพที่ดีที่สุดในโลก สมาคมโรคหัวใจของสหรัฐอเมริกา แนะนำให้รับประทานปลาแซลมอนอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะในปลาแซลมอนนั้นอุดมไปด้วยกรดไขมัน โอเมก้า3 โปรตีน วิตามินและเกลือแร่ ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคและอาการต่างๆ

ดังนั้น นี่คือ 15 เหตุผลที่คุณควรรับประทานปลาแซลมอน เพื่อดูแลสุขภาพของคุณเอง เราลองมาดูรายละเอียดทางโภชนาการของปลาแซลมอนกันดีกว่าค่ะ

1. ดีสำหรับหัวใจ

เห็นได้ชัดจากข้อเท็จจริงด้านโภชนาการที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า ปลาแซลมอน อุดมไปด้วยกรดไขมัน โอเมก้า3 ซึ่งกรดไขมันโอเมก้า3 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่มีพันธะคู่หลายตัว EPA และ DHA เป็นกรดไขมันโอเมก้า3 ที่มีอยู่ในปลาแซลมอน ทั้ง 2 ชนิดนี้ ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ โดยการลดระดับ LDL และเพิ่มการย่อยสลายของกรดไขมัน ทั้งนี้จะช่วยป้องกันการเกิดคราบจุลินทรีย์และสามารถปกป้องคุณจากโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองตีบ

2. ช่วยลดน้ำหนัก

ปลาแซลมอนยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี เพราะมีโอเมก้า3 ทั้งสองชนิด ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะมีผลต่อเปอร์เซ็นต์ของไขมันในร่างกาย โปรตีนนี้จะย่อยได้ยาก จึงสามารถช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณกินได้น้อยลง จึงมีผลช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต เพิ่มการเผาผลาญอาหารและลดการสะสมไขมัน โดยการเพิ่มการออกซิเดชั่นของกรดไขมัน ดังนั้นคุณจะสามารถมีร่างกายที่ผอมและกระชับได้ หากคุณกินปลาแซลมอนที่ปรุงสุกด้วยวิธีการทำที่เหมาะสม

3. ลดการอักเสบ

การอักเสบของร่างกายเป็นอันตราย เพราะอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น อาจมีอาการปวดข้อ , การตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันลดลง , เป็นแผลในกระเพาะอาหารและโรคหลอดเลือดสมอง ในกรดไขมันโอเมก้า3 ที่มีอยู่ในปลาแซลมอนนั้น จะควบคุมฮอร์โมนในร่างกาย จะกำหนดเส้นทางเซลล์และการแสดงออกของยีนส์ ช่วยลดอาการไมเกรน โรคไขข้อ โรคสะเก็ดเงิน โรคลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผล โรคเส้นโลหิตตีบ โรคอ้วน โรคอักเสบ เป็นต้น

4. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสมอง

กรดไขมันโอเมก้า3 ที่มีอยู่ในปลาแซลมอนมีความสำคัญต่อสมองของคุณ กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนเหล่านี้ เป็นสารป้องกันเส้นประสาทตามธรรมชาติ นอกจากนี้ EPA และ DHA ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของอวัยวะในช่วงพัฒนาการของสมอง DHA ช่วยในการสร้างความแตกต่างของเซลล์ต้นกำเนิดประสาทในเซลล์ประสาท นอกจากนี้ ยังพบว่ากรดไขมันโอเมก้า3 ยังช่วยเพิ่มสมรรถนะด้านความจำในสตรีสูงอายุได้อีกด้วย

5. ต่อสู้กับโรคมะเร็ง

โรคมะเร็งนั้นอาจเกิดจากความไม่สมดุลของกรดไขมันโอเมก้า3และโอเมก้า6ในร่างกาย ทำให้เกิดการสะสมของสารพิษและเนื้องอกของเซลล์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ การกินปลาแซลมอนจะช่วยเพิ่มระดับกรดไขมันโอเมก้า3 ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบและความเป็นพิษในร่างกาย จากการศึกษาได้พิสูจน์ว่า EPA และ DHA สามารถใช้เพื่อรักษามะเร็งและป้องกันการเจริญเติบโตของมะเร็งเต้านมได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อจากการใช้ยาเคมีบำบัดอีกด้วย

6. ป้องกันสมาธิสั้นในเด็ก

กรดโอเมก้า3 DHA และEPA มีบทบาทสำคัญในร่างกาย แต่ก็มีความต่างในหน้าที่ DHA รับผิดชอบการพัฒนาสมองทั้งก่อนและหลังคลอด ในขณะที่ EPA ช่วยควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม นักวิจัยพบว่า DHAและ EPA สามารถช่วยลดอาการของโรคสมาธิสั้นในเด็กได้ ถือว่าเป็นประโยชน์ที่ดีสำหรับเด็กออทิสติก

7. เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม

เพียงหนึ่งในสี่ของปลาแซลมอน สามารถให้โปรตีนแก่คุณได้ถึง 13 กรัม โปรตีนเหล่านี้จะช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ เพื่อให้ร่างกายกระชับขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพให้แก่กล้ามเนื้อ ป้องกันผมร่วง และซ่อมแซมผิว ผม และสุขภาพของเล็บให้ดีขึ้น

8. แหล่งที่มาของวิตามินดี

ปลาแซลมอนยังเป็นแหล่งวิตามินดี ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก ลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่2 ช่วยต่อสู้โรคมะเร็งและป้องกันโรคหัวใจ หากคุณไม่ได้ออกไปเดินเล่น หรือวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้าก็เป็นไปได้ว่า คุณไม่ได้รับวิตามินดี ในปริมาณมากเพียงพอที่ร่างกายต้องการ และหากผิวของคุณบอบบางมากและต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด ในกรณีเช่นนี้ คุณควรรับประทานปลาแซลมอน เพื่อช่วยให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี

9. ช่วยดูแลจอประสาทตา

นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาโรคตาที่มีผลเกี่ยวข้องกับอายุ พบว่า ผู้ที่รับประทานอาหารที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า3 เป็นประจำ มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอประสาทตาลดลง เนื่องจากปลาแซลมอนอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า3 ที่ถือว่าเป็นสุดยอดในการดูแลสุขภาพดวงตา ทำให้จอประสาทตาควบคุมเซลล์และเยื่อหุ้มเซลล์ที่จอตารับแสงได้ดีขึ้น มีผลช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองเห็นให้ดีขึ้นอีกด้วย

10. เป็นแหล่งที่มาของซีลีเนียม

ซีลีเนียมเป็นแร่ธาตุที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และปลาแซลมอนก็เป็นแหล่งที่ดีของซีลีเนียม ประมาณ 3.5 ปอนด์ของปลาแซลมอนสามารถให้ซีลีเนียมถึง 65 % ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน ช่วยในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง ควบคุมการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำหน้าที่อย่างเหมาะสม ต่อต้านการกระทำของเชื้อเอชไอวี ช่วยลดโอกาสในการแท้งบุตร ส่งเสริมการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ ลดความเครียด และอาจช่วยปกป้องคุณจากโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้การขาดซีลีเนียมอาจทำให้ความสามารถในการตัดสินใจของคุณลดลงได้

11. เป็นแหล่งที่มาของแอสตาแซนธินที่ยอดเยี่ยม

เคยสงสัยไม๊ว่า ทำไมเนื้อปลาแซลมอนจึงเป็นสีชมพูหรือส้ม นั่นเป็นเพราะปลาแซลมอนมีปริมาณ แอสตาแซนธินที่ดี ซึ่งแอสตาแซนธินนี้มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและกำจัดอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งแอสตาแซนธินนี้ไม่สามารถสังเคราะห์โดยมนุษย์ได้ แต่คุณสามารถที่จะรับประทานปลาแซลมอนแทนเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองได้

12. เต็มไปด้วยวิตามินบี

ปลาแซลมอนเป็นแหล่งวิตามินที่ดี ดังนี้

  • วิตามินบี12
  • วิตามินบี6
  • วิตามินบี1
  • วิตามินบี2
  • วิตามินบี3
  • วิตามินบี5
  • วิตามินบี9

วิตามินเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดี ช่วยลดการเกิดโรคกระดุกพรุน ช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหาร ดูแลการทำงานของสมอง และช่วยรักษาระดับพลังงานในร่างกายให้เป็นปกติ

13. บรรเทาและลดอาการผมร่วง

ปลาแซลมอนอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า3 โปรตีน วิตามินบี12 และธาตุเหล็ก สารอาหารเหล่านี้จะช่วยให้สุขภาพหนังศรีษะของคุณดีขึ้น ป้องกันผมร่วง โดยการให้อาหารแก่รูขุมขน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม ปกป้องเส้นผมของคุณให้ดูนุ่มสลวย ดังนั้นหากคุณต้องการดูแลสุขภาพของเส้นผม ควรรับประทานปลาแซลมอนเป็นประจำ แต่ถ้าหากคุณไม่สามารถทานปลาแซลมอนได้บ่อยๆ ก็สามารถทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมน้ำมันปลาแทนการรับประทานแซลมอน เพื่อป้องกันผมร่วงได้

14. ดูแลสุขภาพผิวหนัง

เมื่อคุณอายุเพิ่มมากขึ้น ริ้วรอย จุดด่างดำและกระ ก็จะเริ่มปรากฏขึ้น แนะนำให้รับประทานปลาแซลมอนเพื่อดูแลสุขภาพฟื้นฟูสุขภาพผิว กรดไขมันโอเมก้า3 โปรตีนและวิตามินดี จะช่วยให้เซลล์ของคุณผลิตคอลลาเจน เคราตินและเมลานิน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผิวของคุณคงความชุ่มชื่นเอาไว้ ซึ่งจะช่วยลดริ้วรอยได้ แอสตาแซนธินจะช่วยขจัดแบคทีเรียและต้านอนุมูลอิสระที่เป็นพิษต่อผิว ช่วยฟื้นฟู แก้ไขให้ผิวมีความยืดหยุ่น ช่วยลดจุดด่างดำและสิวได้

15. ช่วยปรับปรุงอารมณ์

ปลาแซลมอนสามารถช่วยยกระดับอารมณ์ของคุณได้ กรดไขมันโอเมก้า3ที่มีอยู่ในปลาแซลมอนช่วยลดการอักเสบและช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้นได้ ซึ่งได้รับการยืนยันจากนักวิทยาศาสตร์ว่า คนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะมีกรดไขมันโอมเก้า3 ต่ำกว่าคนที่อื่น
หากได้รับโอเมก้า3 เพียง 32 กรัมจากปลาแซลมอน ก็จะทำให้มีความรู้สึกมีกำลังใจ ไม่ท้อแท้ ลดอาการซึมเศร้าลงได้อีกด้วย

เห็นได้ชัดว่า 15 ประโยชน์จากปลาแซลมอน นั้นเป็นสิ่งที่ต้องมีในมื้อเย็นหรือมื้อเที่ยงของคุณเลยก็ว่าได้ หากคุณชอบรับประทานอาหารแบบง่ายๆ ไม่ปรุงแต่งรสชาดมากนัก ก็สามารถทำเมนูปลาแซลมอนรับประทานเองได้ง่ายๆที่บ้านของคุณ
หรือหากไม่สะดวกก็สามารถหาทานเมนูปลาแซลมอนได้ตามร้านอาหารทั่วๆไป ซึ่งปลาแซลมอนนั้นมีรสชาติอร่อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ก่อนรับประทานก็ควรเลือกแหล่งที่มาของปลาแซลมอนกันสักหน่อย เพื่อให้ปลอดภัยจากโลหะหนัก เช่นปรอท หรือสารกำจัดศัตรูพืชที่ปนเปื้อนในเนื้อปลา ดังนั้นหากต้องการมีสุขภาพที่ดี ควรเลือกวิธีแหล่งที่มาของปลาแซลมอน และวิธีการปรุงที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้รับคุณค่าทางสารอาหารที่เหมาะสมแก่ร่างกายของเรา

ข้อมูลโภชนาการของปลาแซลมอน
เนื้อปลาแซลมอนครึ่งชิ้นประกอบด้วย :

  • กรดไขมันโอเมก้า3 – 4023 มก.
  • กรดไขมันโอเมก้า 6 – 1185 มก.
  • โปรตีน – 39.3 กรัม
  • วิตามิน เอ – 89.0 IU
  • วิตามิน บี6 – 1.2 มก.
  • วิตามิน บี12 – 5.0 ไมโครกรัม
  • วิตามิน ซี – 6.6 มก.
  • โฟเลต – 60.5 ไมโครกรัม
  • ไนอาซิน -14.3 มก.
  • Thiamin – 0.6 มก.
  • กรด Pantothenic – 2.6 มก.
  • คาร์โบไฮเดรต – 0 กรัม
  • แคลเซียม – 26.7 มก.
  • แมกนีเซียม 53.4 มก.
  • ซีลีเนียม -73.7 ไมโครกรัม
  • โพแทสเซียม –683 มก.
  • ฟอสฟอรัส – 449 มก.
  • เหล็ก -0.6 มก.
  • โซเดียม -109 มก.
  • แคลลอรี่ -367