Thursday, 25 April 2024

รู้จักโรคมะเร็ง สาเหตุและวิธีการรักษา

โรคมะเร็งเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในร่างกายที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จนร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ เซลล์เหล่านี้จึงลุกลามไปทั่วร่างกาย ทำให้เซลล์ปกติของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และเมื่อเป็นมะเร็งที่อวัยวะสำคัญของร่างกาย ได้แก่ สมอง ปอด ตับ ไต กระดูก และไขกระดูก อวัยวะนั้นจึงทำงานล้มเหลวแล้วกลายเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต

 

สาเหตุการเกิดโรคมะเร็ง

เนื่องจากการใช้ชีวิตและพฤติกรรมของคนไทยที่เปลี่ยนไปจากอดีต ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคอาหารที่มีสารเร่งเนื้อแดง นิยมการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง แต่ขาดการบริโภคพืชผักผลไม้ การได้รับสารพิษจากมลภาวะ การใช้ยาฮอร์โมนเพศที่ต่อเนื่อง การสูบบุหรี่จัด หรือแม้แต่การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็ตาม ล้วนเป็นอัตราเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งทั้งนั้น

 

อาการของโรคมะเร็ง

เราไม่สามารถสังเกตเห็นอาการเฉพาะของโรคมะเร็งได้อย่างแน่ชัด แต่ด้วยอาการบางอย่างของร่างกายที่ทำให้คาดเดาได้ว่าอาจจะเป็นมะเร็ง เช่น ต่อมน้ำเหลืองโตขึ้น การคลำเจอก้อนเนื้อที่โตเร็ว มีเสมหะหรือน้ำลายปนเลือดบ่อย ไอเรื้อรังหรือไอเป็นเลือด มีไข้สูงที่หาสาเหตุไม่ได้ ปวดศีรษะรุนแรงเรื้อรัง กล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วภายใน 6 เดือน ในสตรีอาจจะมีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ

 

ระยะการเป็นโรคมะเร็ง

โรคมะเร็งแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ตามระดับความรุนแรงของโรค การลุกลาม และการแพร่กระจาย ได้แก่ระยะ 1 – 4 ส่วนโรมะเร็งระยะศูนย์ยังไม่อาจจัดว่าเป็นโรคมะเร็งได้ เพราะว่าเซลล์เพียงแค่ผิดปกติมีสถานะเป็นมะเร็ง แต่ยังไม่มีการรุกรานเข้าเนื้อเยื่อข้างเคียง

ระยะที่ 1 : ก้อนเนื้อมีขนาดเล็กซึ่งยังไม่ลุกลาม

ระยะที่ 2 : ก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มลุกลามเข้าอวัยวะหรือเนื้อเยื่อ

ระยะที่ 3 : ก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก เริ่มลุกลามเข้าอวัยวะหรือเนื้อเยื่อข้างเคียง และลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้อวัยวะหรือเนื้อเยื่อซึ่งเป็นมะเร็ง

ระยะที่ 4 : ก้อนเนื้อมีขนาดโตมากและลุกลามเข้าอวัยวะหรือเนื้อเยื่อข้างเคียง จนทะลุถึงต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้ก้อนเนื้อมะเร็ง อาจจะแพร่กระจายเข้ากระแสเลือดจนลุกลามไปถึงอวัยวะหรือเนื้อเยื่อที่อยู่ไกลออกไป

 

วิธีรักษาโรคมะเร็ง

โรคมะเร็งในปัจจุบันสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากตรวจพบตั้งแต่ระยะที่ยังไม่ลุกลาม ซึ่งอาจจะใช้วิธีเดียวหรือหลายวิธีร่วมกัน ได้แก่ การใช้ยาประคับประคองตามอาการด้วยอายุรกรรมทั่วไป การผ่าตัด การฉายรังสี การใช้ยาเคมีบำบัด การใช้ยาฮอร์โมน

ซึ่งการที่แพทย์จะเลือกใช้วิธีใดรักษานั้น ขึ้นอยู่กับระยะโรค ชนิดของเซลล์มะเร็ง ลักษณะเนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่เป็น ผลทางพยาธิวิทยาหลังตัดชิ้นเนื้อต้องสงสัย อายุและสุขภาพของผู้ป่วย

การดูแลตนเองเมื่อพบว่าเป็นโรคมะเร็ง

เมื่อแพทย์วินิจฉัยโรคแล้วระบุว่าตนเองเป็นโรคมะเร็งจริงๆ สิ่งแรกที่ควรต้องทำคือ “ตั้งสติ” พูดคุยหรือปรึกษากับคนในครอบครัว หากมีโรคประจำตัวอื่นๆ ที่กำลังรักษาอยู่ก็ต้องแจ้งให้แพทย์ท่านนั้นทราบด้วย เพื่อที่จะได้จัดยาไปในแนวทางที่ถูกต้อง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมสุขภาพจิตใจให้ดีที่สุด ไม่ตีโพยตีพายถือโทษโกรธตัวเอง แล้วเตรียมพร้อมรับการรักษาทางกายในขั้นต่อไป

ระหว่างที่อยู่ในช่วงรักษาโรคมะเร็ง ควรดูแลสุขอนามัยพื้นฐานอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอาหารการกินที่ต้องลดโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ไม่ทานอาหารที่ผ่านกรรมวิธีการปรุงมากเกินจำเป็น แต่รับประทานผักผลไม้สดเป็นประจำมากขึ้น เลิกสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ อย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เต็มที่ ทานยาตามแพทย์สั่ง และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

 

โรคมะเร็งอาจจะดูเป็นโรคที่ร้ายแรงมากสำหรับชีวิตใครหลายๆ คน แต่นั่นเกิดจากพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงจากตนเองทั้งนั้น ถ้าเราปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยที่ดีอย่างสม่ำเสมอแล้ว โอกาสที่จะเป็นก็ลดน้อยลงด้วยค่ะ