ย้อนเวลาไปสัมผัสกับเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมและศิลปะโบราณ ที่อุทยานประวัติศาสตร์ 9 แห่งในประเทศไทย สถานที่เหล่านี้ มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมาก โดยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก แม้ว่าจะผ่านมาหลายศตวรรษแล้ว แต่สถานที่เที่ยวเหล่านี้ยังคงรักษาความงดงามเอาไว้ได้ คุณจะไปเยี่ยมชมสถานที่ใดบ้าง เตรียมตัวเช็คอินและมาสำรวจสถานที่ทั้งหมดนี้ได้เลย!
แนะนำอุทยานประวัติศาสตร์ 9 แห่งที่คุณควรไปเยี่ยมชมสักครั้ง
1. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18-19 ในช่วงเวลาดังกล่าว ได้มีการวางรากฐานความเชื่อทางพุทธศาสนา นำไปสู่การสร้างวัด เจดีย์ และพระพุทธรูป ภายในอุทยานมีโบราณสถานสำคัญต่าง ๆ เช่น วัดมหาธาตุ วัดศรีชุม วัดตระพังเงิน วัดศรีสวาย และอื่น ๆ อีกมากมาย โบราณสถานเหล่านี้สะท้อนถึงศิลปะ วัฒนธรรม และความเชื่อของสมัยสุโขทัย ทำให้เป็นแหล่งโบราณคดีอันทรงคุณค่าที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก เปิดให้เข้าชมช่วงเวลา 06.30-19.30 น. โดยมีค่าเข้าชมเพียง 10 บาท สำหรับคนไทย และ 40 บาท สำหรับชาวต่างชาติ
2. อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศไทยที่มีโบราณสถานสำคัญจากยุคเดียวกันเป็นจำนวนมาก ในอดีต กำแพงเพชรเป็นเมืองชายแดนที่สำคัญของอาณาจักรสุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์จึวครอบคลุมทั้งกำแพงเมืองภายในและภายนอก ซึ่งภายในกำแพงเมืองมีโบราณสถานค้นพบรวม 20 แห่ง โดยโบราณสถานแต่ละแห่งสะท้อนถึงการวางผังเมืองโบราณไว้อย่างดี โดยอุทยานจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ช่วงเวลา 08.30 – 16.30 น. มีค่าเข้าชมชาวไทยคนละ 10 บาท และชาวต่างชาติคนละ 30 บาท
3. อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ปราสาทหินพนมรุ้งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ ไปทางทิศใต้ประมาณ 77 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ได้รับการสร้างขึ้นมาหลายศตวรรษ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15-18 โบราณสถานแห่งนี้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของวัฒนธรรมโบราณ และได้รับการยกย่องให้เป็นโบราณสถานที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย จุดเด่นคือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 2-4 เมษายน และ 8-10 กันยายนของทุกปี โดยพระอาทิตย์จะขึ้นส่องแสงผ่านช่องประตูทั้ง 15 ช่องของปราสาท ก่อให้เกิดการแสดงความงามอันน่าทึ่ง ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมและธรรมชาติเข้าด้วยกัน เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. โดยค่าธรรมเนียมเข้าชมชาวไทย 20 บาท และชาวต่างประเทศ 100 บาท
4. อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทหินพิมาย
อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทหินพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมาประมาณ 60 กิโลเมตร ในอดีตบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองโบราณพิมาย ในรัชสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 16 หรือประมาณ 1,000 ปีมาแล้ว โดยปราสาทหินพิมายถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบขอม มีกำแพงและคูน้ำล้อมรอบ นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมอุทยานได้ทุกวัน ตั้งแต่ช่วงเวลา 07.00-18.00 น. โดยเสียค่าธรรมเนียมเข้าชมชาวไทย 20 บาท และชาวต่างชาติ 100 บาท
5. อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยม ล้อมรอบด้วยทิวเขา 3 ยอด ที่ให้บรรยากาศดีมาก มีลักษณะเหมือนเมืองโบราณอยุธยา ผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีแม่น้ำยมอยู่ทางทิศตะวันออก กำแพงเมืองชั้นในประดับประดาด้วยประติมากรรม หลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่าบริเวณนี้ มีผู้อยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ประมาณศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสตศักราช และได้พัฒนาเป็นชุมชนที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยสุโขทัย (คริสต์ศตวรรษที่ 11-16) และเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องมาจนถึงศตวรรษที่ 18 โดยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ช่วงเวลา 08.00-16.30 น.
6. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
อยุธยาเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ตั้งอยู่ท่ามกลางแม่น้ำสำคัญ 3 สาย คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี ในอดีตอยุธยามีความเจริญรุ่งเรืองในด้านการเมือง เศรษฐกิจ ศิลปะ และวัฒนธรรม ซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นได้จากซากปรักหักพังโบราณที่ปรากฎอยู่ในปัจจุบัน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จึงเป็นหนึ่งในจุดเที่ยวสำคัญด้านประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม พร้อมได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO และเป็นส่วนหนึ่งของเมืองประวัติศาสตร์สำคัญของไทย โดยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ช่วงเวลส 08.30-18.30 น.
7. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี
ปัจจุบัน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี ประกอบไปด้วยพระราชวัง วัดวาอาราม และอาคารต่าง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกตะวันตก ผสมผสานกับอิทธิพลของจีน ตรงกลางของภูเขาเป็นที่ตั้งของเจดีย์จอมเพชร ส่วนด้านตะวันออกเป็นที่ตั้งของวัดมหาธาตุวรวิหาร ภายในวัดมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามทั้งสี่ด้านโดยศิลปินชื่อดังของไทย นอกจากนี้ ยังมีวัดพระแก้วขนาดเล็ก ซึ่งมีเจดีย์สีแดงเป็นจุดเด่น โดยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. มีค่าเข้าชม คนไทย 60 บาท และต่างชาติ 190 บาท ซึ่งจะรวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรีและค่ารถรางไฟฟ้า
8. อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เป็นแหล่งโบราณคดีและศิลปะหินโบราณ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจังหวัดกาญจนบุรี สร้างขึ้นเป็นศาสนสถานทางพุทธศาสนาแบบมหายาน เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ภายในอุทยานมีร่องรอยของวัฒนธรรมขอมโบราณมากมาย สะท้อนให้เห็นผ่านประติมากรรมและพระพุทธรูปต่าง ๆ ที่สวยงามและเปล่งประกาย โดยเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ช่วง 07.00-18.00 น.
9. อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม
ปราสาทโบราณสด๊กก๊อกธม เป็นปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อของศาสนาฮินดู สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านศิลปะโบราณ โดยมีหอคอยหลัก 3 แห่ง คูน้ำ กำแพง ประตูทางเข้า และระเบียง นอกจากนี้ ยังมีจารึกด้วยอักษรโบราณที่บอกเล่าประวัติการสร้างวัด พิธีกรรม และลำดับวงศ์ตระกูลของพระมหากษัตริย์ที่ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายถึงพิธีกรรมบูชาและการสร้างหมู่บ้านด้วย ปัจจุบันจารึกทั้งหมดนี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี โดยกรมศิลปากร จะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ช่วง 08.30-16.30 น.
ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน จึงสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์กระจายอยู่หลายแห่ง บางสถานที่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย วันหยุดนี้จึงขอแนะนำให้คุณมาลองสำรวจเมืองโบราณ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้วันหยุดพักผ่อนสนุกสนานมากขึ้น