Wednesday, 24 April 2024

8 ประโยชน์ของขิงเพื่อสุขภาพที่ดี

ขิงเป็นเครื่องเทศที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่งของโลก เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการดูแลกระดูก เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มความอยากอาหาร ป้องกันมะเร็งชนิดต่างๆ ช่วยในการย่อยอาหาร บรรเทาอาการโรคข้ออักเสบ ลดแก๊สในช่องท้อง บรรเทาอาการปวดที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของประจำเดือน แก้อาการวิงเวียน คลื่นไส้ และบรรเทาไข้หวัดใหญ่

8 ประโยชน์ของขิงเพื่อสุขภาพที่ดี

8 สรรพคุณของขิง

ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

ขิงมีสารประกอบอินทรีย์ที่เป็นเอกลักษณ์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นสารต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอาการที่เกี่ยวข้องกับกระดูกอย่างเช่น การอักเสบของข้อเข่า ขิงได้รับการยอมรับเป็นอย่างยิ่งในประเทศจีน อินเดียและตะวันออกกลาง ในประเทศจีนนี้มีการใช้ขิงกันมายาวนานมากกว่า 2000 ปี ในการรักษาอาการอักเสบต่างๆของร่างกายและใช้รักษาโรคอุจจาระร่วง นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นๆอีก รายละเอียดตามไปดูกันเลย

1.  เป็นยาขับลม

ขิงเป็นยาขับลมที่มีประสิทธิภาพมาก ช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหาร ขับลมในลำไส้ การมีแก๊สหรือลมในช่องท้องนี้ อาจทำให้คุณรู้สึก อึดอัด ไม่สบายท้องไม่สบายตัว การปล่อยให้มีแก๊สในช่องท้องเป็นเวลานานอาจส่งผลต่ออวัยวะและระบบภายในช่องท้อง ขิงจะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ เพียงคุณชงน้ำขิงดื่มในขณะอุ่นๆก็จะช่วยขับลมและป้องกันการสร้างแก๊สในลำไส้ได้

2.  รักษาอาการท้องร่วง

ปัจจุบันนักวิจัยได้มีการพิสูจน์ว่า ขิงสามารถช่วยรักษาอาการท้องร่วงได้จริงหรือไม่ เพราะในสมัยโบราณขิงได้รับการใช้เพื่อรักษาอาการท้องร่วง ซึ่งผลปรากฏว่า ขิงสามารถช่วยรักษาอาการท้องร่วงได้จริง เนื่องจากขิงจะช่วยป้องกันการหดเกร็งและบรรเทาแก๊สที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วง โดยวิธีการใช้คือนำขิงผงมาชงดื่มในขณะที่มีอาการ เพียงเท่านี้ก็ช่วยบรรเทาอาการที่เป็นอยู่ให้หายได้ โดยไม่ต้องใช้ยาเลย

3.  ช่วยในการย่อยอาหาร

ขิงได้รับการค้นพบว่าเป็นผู้อำนวยความสะดวกในระบบทางเดินอาหาร ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้นหลังการรับประทานอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารลดอัตราการหลั่งน้ำย่อยลง ขิงจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานได้ตามปกติ ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารและแร่ธาตุต่างๆจากอาหารที่เรากิน นี่คือเหตุผลที่ขิงมักถูกใช้เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยก่อนกินอาหารอื่นๆ เพราะมันสามารถกระตุ้นความอยากอาหาร และในขณะเดียวกันก็ช่วยเตรียมระบบย่อยอาหาร เพื่อรองรับการเดินทางของอาหารที่เข้ามาสู่กระเพาะอาหารและลำไส้ ฉะนั้นจะสังเกตุได้ว่าในประเทศทางแถบเอเชีย เมนูอาหารที่มีขิงจะถูกเสิร์ฟเป็นรายการต้นๆเพื่อช่วยกระตุ้นน้ำย่อยนั่นเอง

4.  ป้องกันโรคมะเร็ง

ขิงมีเบต้าแคโรทีน ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยในการกำจัดอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ สามารถควบคุมและลดอาการอักเสบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสารก่อมะเร็งอันจะนำพาไปสู่โรคมะเร็งต่างๆได้ ช่วยลดขนาดของเนื้องอกและลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยไม่ทำอันตรายต่อเซลล์แข็งแรงที่อยู่รอบๆบริเวณนั้น โดยการออกฤทธิ์ของขิงมี 2 รูปแบบ คือ ฆ่าเซลล์แบบที่ให้เซลล์ย่อยสลายตัวเอง และอีกชนิดทำให้เซลล์มะเร็งส่งสัญญาณทำลายตัวเอง

5.  ล้างพิษและฆ่าเชื้อ

ขิงช่วยในการขับเหงื่อได้ดี การขับเหงื่อไม่เพียงช่วยทำความสะอาดรูขุมขน แต่ยังช่วยให้ร่ายกายของคุณสามารถขจัดสารพิษออกมาร่วมกับเหงื่อได้ ในงานวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า สารประกอบเดอร์มซิดิน (dermcidin) ที่อยู่ในเหงื่อสามารถต่อสู้กับเชื้อโรค ลดการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสในคนที่มีเหงื่อออกเป็นประจำ สารเดอร์มซิดินจะถูกกระตุ้นออกมาในเหงื่อที่มีสภาพเป็นกรดเล็กน้อย รวมถึงเกลือแร่ จะทำหน้าที่กำจัดเยื่อหุ้มเซลล์จุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายออกไป ทำให้ร่างกายรู้สึก สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ช่วยให้ผิวสะอาดขึ้น ลดปัญหาการติดเชื้อบริเวณผิวหนังได้

6.  ป้องกันอาการปวดประจำเดือน

การดื่มน้ำขิงในช่วงที่มีประจำเดือน จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สารโพรสตาแกลนดิน ( Prostaglandin) นี้เป็นสารเคมีในร่างกายที่มีบทบาทในการสืบพันธุ์ มีหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมและสลายการอักเสบที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย
ในระหว่างการมีประจำเดือนสารโพรสตาแกลนดินอาจทำให้มีอาการปวดประจำเดือนมากขึ้น การรับประทานขิงในช่วงนี้จะช่วยลดระดับอาการปวดและช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งได้

7.  บรรเทาอาการคลื่นไส้

ขิงสามารถช่วยรักษาอาการคลื่นไส้ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ บรรเทาอาการเมารถ เมาเรือและผลจากการใช้ยาเคมีบำบัดรักษาโรคได้ ซึ่งการดูดซึมที่มีประสิทธิภาพ และความรวดเร็วในการออกฤทธิ์ จะช่วยแก้อาการคลื่นไส้ โดยไม่มีผลข้างเคียงต่อยาแผนปัจจุบัน

8.  บรรเทาอาการไข้หวัดใหญ่

ขิงมีสารออกฤทธิ์ที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ การดื่มน้ำขิงที่ต้มแล้วในขณะที่ยังร้อนอยู่นั้น ช่วยให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาจ (Macrophage) จับกินไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดีขึ้นบรรเทาอาการเป็นไข้ ปวดศรีษะ ช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายสมดุลขึ้น ปัจจุบัน ขิงถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และองค์การอนามัยโลกรับรองในการใช้รักษาอาการหวัด ใครที่กำลังเป็นไข้หวัดใหญ่ ลองต้มน้ำขิงดื่มก็น่าช่วยบรรเทาอาการได้ดี เป็นการลดการใช้ยาเคมีเข้าสู่ร่างกายได้อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของขิงนั้นดีต่อสุขภาพร่างกายจริงๆ แต่การรับประทานขิงก็มีข้อควรระวังสำหรับผู้ที่เป็นโรคนิ่ว เนื่องจากขิงจะช่วยในการหลั่งน้ำดี หากเป็นโรคนิ่วหรือมีอาการของโรคที่เกี่ยวข้องกับถุงน้ำดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานขิง เพื่อความปลอดภัยในการดูแลสุขภาพและเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากขิงมากที่สุดค่ะ

รับชมวิดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=0PXGNZ1CCvE